เราเป็นหญิงสาวที่อยู่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นที่เราย้ายออกจากบ้านมาอยู่ตามลำพัง ย้อนกลับไปเมื่อประมาณเจ็ดปีที่แล้ว เราได้เอาเงินเก็บที่เรามีอยู่มาดาวน์บ้านเพื่อที่จะแยกมาอาศัยอยู่คนเดียวในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งหมู่บ้านที่เราอยู่ก็เป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างใหญ่ และโซนที่เราพักอาศัยอยู่ก็อยู่ในโซนที่ค่อนข้างโอเคเลย และเราก็โชคดีที่มีเพื่อนบ้านที่ดีด้วย ด้วยความที่ตัวแซงตามลำพัง เวลาที่เราไม่อยู่บ้านและต้องออกไปทำงาน เราก็ได้เพื่อนบ้านของเราเนี่ยแหละที่คอยช่วยสอดส่องดูแลความเรียบร้อยให้ มีปัญหาอะไรเพื่อนบ้านของเราก็จะโทรไปหาเราทันที ซึ่งตัวของเราเองก็มักจะชอบตอบแทนด้วยการซื้อขนมไปฝากเพื่อนบ้านของเรา รวมถึงลูกชายของเพื่อนบ้านด้วย บางทีถ้าเราไปเจอของเล่นอะไรมาเราก็จะซื้อของเล่นติดไม้ติดมือมาฝาก ซึ่งในตอนนี้เด็กหนุ่มคนนั้นก็ค่อนข้างที่จะโตแล้วในวันนี้ ด้วยเวลาเจ็ดปีที่ผ่านไป ตอนนี้เด็กหนุ่มคนนั้นก็กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.ปลายแล้ว
ด้วยความที่เราชอบซื้อนู่นนี่นั่นมาฝากเพื่อนบ้านของเรา ลูกชายของเพื่อนบ้านก็มักจะชอบมาขอนุ่นนี่นั่นจากเรา ซึ่งตัวของเราเองก็เป็นคนใจดี แล้วก็เห็นเด็กคนนี้มาตั้งแต่เล็ก เราก็เลยเอ็นดูเด็กหนุ่มคนนี้เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเดินมาขอตังค์เรากี่บาทเราก็จะให้ตลอด เพราะลำพังตัวของเราเองก็ไม่ได้มีภาระอะไรมากมายอยู่แล้ว บางทีถ้ามันไม่เหนือบ่ากว่าแรงเราก็ให้เด็กมันไป แต่ดูเหมือนว่าเมื่อเด็กหนุ่มคนนี้โตขึ้นนิสัยของเค้าก็จะยังไม่เปลี่ยน และดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะติดนิสัยการขอไปแล้ว โดยมีอยู่วันนึงซึ่งเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว เด็กหนุ่มคนนี้ได้วิ่งไปหาเราที่หลังบ้านตอนที่เรากำลังยืนรถน้ำต้นไม้อยู่ และเด็กน้อยคนนี้ก็บอกกับเราว่าเค้าอยากจะได้ไอโฟน ซึ่งตัวของเราเองก็อึ้งไปสักพักนึง ผ่อนโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ก็ราคาค่อนข้างที่จะแพงมาก และโทรศัพท์ที่เราใช้อยู่ก็ยังเป็นรุ่นเก่าอยู่เลย แต่ว่าตอนนั้นเราก็ปากหนักไม่กล้าที่จะปฏิเสธ ก็เลยต้องไปหาซื้อโทรศัพท์ไอโฟนมาให้เด็กหนุ่มคนนี้
แน่นอนว่าของแพงขนาดนี้เราคงจะไม่ได้ให้เด็กหนุ่มคนนี้ไปฟรีๆ แน่นอน ก่อนที่เราจะเอาโทรศัพท์ไปให้เด็กหนุ่มคนนี้ เราก็พยายามคิดทบทวนและพูดคุยกับตัวเองว่าตัวของเราเองต้องการอะไร ถ้าต้องแลกกับสิ่งของมีค่าขนาดนี้ แต่ด้วยความที่เราเองก็เป็นสาวโสดอยู่แล้ว บวกกับการที่หนุ่มวัยรุ่นคนนี้ก็ค่อนข้างที่จะโตกว่าเมื่อก่อนตอนที่เราเห็นมากๆ เราก็เลยอยากจะเห็นควยของเด็กหนุ่มน้อยคนนี้ ในวันที่เด็กน้อยคนเดินมาหาเราเพื่อที่จะเอาโทรศัพท์ เราก็พูดกับเด็กหนุ่มคนนี้ไปตามตรงเลยว่าโทรศัพท์เครื่องนี้เราไม่ได้ให้ฟรีๆ โดยรมีข้อแลกเปลี่ยนอยู่ และถ้ารับได้ เราก็พร้อมที่จะยกโทรศัพท์เครื่องนี้ให้ แต่ถ้าไม่เราก็จะเก็บโทรศัพท์เครื่องนี้เอาไว้ใช้เอง เพราะว่าตัวของเราก็ใช้โทรศัพท์รุ่นเก่ามากแล้วด้วย แต่ด้วยความอยากของหนุ่มน้อยที่อยากจะมีไอโฟนเป็นของตัวเอง หนุ่มน้อยคนนี้ยอมเราทุกอย่าง เราสั่งให้ทำอะไรก็ทำหมด โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง
เราได้ตกลงเงื่อนไขกับหนุ่มน้อยคนนี้ว่าเราจะสามารถมีเซ็กส์กับหนุ่มน้อยคนนี้เมื่อไหร่ก็ได้เมื่อเราต้องการเป็นระยะเวลาหนึ่งปีเต็ม และถ้าเราเรียกทุกวัน หนุ่มวัยรุ่นคนนี้ก็จะต้องเดินทางมาหาเราที่บ้านทุกวันด้วย ซึ่งถ้าเบี้ยวเราก็พร้อมที่จะยึดโทรศัพท์คืนทันที และเราก็ตามได้ง่ายด้วยเพราะว่าบ้านของหนุ่มน้อยคนนี้ก็อยู่บ้านติดกับบ้านของเราเอง เราคิดว่าข้อเสนอของเรามันไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรมาก แต่สิ่งที่เราชอบมากที่สุดก็คือกลิ่นควยของเด็กหนุ่มวัยรุ่น ตอนที่เรากำลังดูดควยให้กับเด็กหนุ่มคนนี้เรารู้สึกว่าควยของเด็กหนุ่มคนนี้ขนาดกำลังดีพอดีกับปากของเรา ควยอาจจะไม่ได้ใหญ่มากเหมือนฝรั่ง แต่ถ้าเทียบกับเด็กในวัยเดียวกันเราคิดว่าควยขนาดนี้ก็ใช้ได้เลยทีเดียว และใครจะไปคิดว่าเมื่อเราสั่งให้เด็กหนุ่มคนนี้เลียหีให้ เราก็สมใจ เพราะเราไม่คิดว่าเด็กวัยรุ่นสมัยนี้จะกล้าเบิร์นหี โดยเฉพาะการเบิร์นหีให้กับผู้หญิงที่มีอายุเยอะกว่ามากๆ ขนาดนี้ แต่สำหรับตัวของเราเองแล้วเราก็ค่อนข้างที่จะมั่นใจในกลิ่นหีของเรามากพอสมควร เพราะเราทำความสะอาดล้างน้องสาวของเราทุกวันเป็นอย่างดี และถ้าพูดถึงเรื่องลีลาการเย็ดของเด็กหนุ่มคนนี้ สำหรับเรา เราก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ เพราะเด็กวัยนี้อาจจะไม่ใช่ผ่านประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์ที่เยอะมาก แต่ตัของเราก็กำลังจะกลายเป็นครูที่ดีในการสอนเรื่องเซ็กส์เสียวให้กับเด็กหนุ่มคนนี้